การตรวจอากาศภายในอาคารช่วยให้เครื่องฟอกอากาศทำงานมีประสิทธิภาพ

การตรวจอากาศภายในอาคารควบคู่กับการใช้เครื่องฟอก

เมื่อคุณภาพอากาศกลายเป็นปัญหาระดับโลก ผู้ประกอบการจึงเริ่มหันมาให้ความสำคัญกับการติดตั้งเครื่องฟอกอากาศภายในอาคาร เพื่อป้องกันฝุ่นละอองและมลพิษที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ อย่างไรก็ตาม คำถามสำคัญที่มักถูกมองข้ามคือ “เครื่องฟอกอากาศเพียงพอจริงหรือ ?” เพราะหากไม่ได้ตรวจสอบคุณภาพอากาศภายในอาคารอย่างสม่ำเสมอ ก็อาจไม่ได้รับอากาศที่สะอาดและปลอดภัยอย่างที่คิด ดังนั้น การใช้เครื่องมือตรวจอากาศภายในอาคารควบคู่ไปด้วยคือสิ่งจำเป็น เพื่อให้แน่ใจว่าอากาศที่คุณหายใจอยู่ในระดับที่ดีต่อสุขภาพจริง ๆ ในบทความนี้ เราจะอธิบายว่าทำไมการติดตั้งเครื่องฟอกอากาศเพียงอย่างเดียวไม่เพียงพอ และเหตุใดการตรวจวัดคุณภาพอากาศภายในอาคาร หรือ IAQ (Indoor Air Quality Monitoring ) คือสิ่งที่ขาดไม่ได้

เครื่องฟอกอากาศมีขีดจำกัดในสิ่งที่สามารถกำจัดได้

แม้ว่าเครื่องฟอกอากาศจะมีประสิทธิภาพในการกำจัดมลพิษบางประเภท เช่น ฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM2.5), ละอองเกสรดอกไม้ และเชื้อราในอากาศ แต่ในความเป็นจริงแล้ว อากาศภายในอาคารสามารถปนเปื้อนด้วยมลพิษที่เครื่องฟอกอากาศอาจไม่สามารถจัดการได้ทั้งหมด ตัวอย่างเช่น 

  • ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO₂) : ระดับ CO₂ ที่สูงเกินไปอาจทำให้เกิดอาการอ่อนเพลีย ปวดศีรษะ และลดประสิทธิภาพในการทำงาน
  • สารประกอบอินทรีย์ระเหยง่าย (VOCs) : มาจากสีทาบ้าน เฟอร์นิเจอร์ และผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด ซึ่งเครื่องฟอกอากาศทั่วไปอาจไม่สามารถกำจัดได้หมด
  • แบคทีเรียและไวรัส : เครื่องฟอกอากาศบางรุ่นสามารถกรองอนุภาคขนาดใหญ่ได้ แต่ไม่ได้ฆ่าเชื้อโรคที่ลอยอยู่ในอากาศ

การตรวจวัดอากาศช่วยให้รู้ว่าปัญหาจริง ๆ อยู่ที่ไหน

เครื่องตรวจวัดคุณภาพอากาศ (Air Quality Monitor) สามารถช่วยวิเคราะห์ระดับมลพิษภายในอาคารแบบเรียลไทม์ ทำให้ทราบว่าอากาศในพื้นที่นั้นมีปัญหาหรือไม่ และสามารถระบุแหล่งที่มาของมลพิษได้ง่ายขึ้น เช่น

  • ตรวจจับระดับ CO₂ ในออฟฟิศที่มีการระบายอากาศไม่ดี
  • วิเคราะห์ค่าของ VOCs ในบ้านที่เพิ่งทาสีใหม่หรือมีเฟอร์นิเจอร์ใหม่
  • ตรวจวัดความชื้นและเชื้อราภายในห้องที่อับชื้น

เมื่อมีข้อมูลการตรวจอากาศภายในอาคารเหล่านี้ เจ้าของอาคารจึงสามารถตัดสินใจได้อย่างมีข้อมูลว่าควรปรับปรุงระบบระบายอากาศอย่างไร หรือว่าควรใช้มาตรการใดเพิ่มเติมในการลดมลพิษภายในอาคาร

เครื่องฟอกอากาศไม่ได้ช่วยแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ

เครื่องฟอกอากาศเป็นเพียง ‘เครื่องมือปลายทาง’ ที่ช่วยกำจัดมลพิษที่ลอยอยู่ในอากาศเท่านั้น แต่ไม่ได้ช่วยแก้ไขต้นเหตุของปัญหา เช่น หากมีการสะสมของสาร VOCs จากเฟอร์นิเจอร์ เครื่องฟอกอากาศก็อาจกำจัดสารเหล่านี้ได้บางส่วน แต่ถ้าแหล่งที่มาของ VOCs ยังคงปล่อยสารเหล่านี้ออกมาอย่างต่อเนื่อง ปัญหาก็จะไม่มีวันหมดไป

ทางแก้ที่ยั่งยืนคือการใช้ระบบตรวจอากาศภายในอาคารเพื่อตรวจจับและวิเคราะห์สาเหตุของปัญหา แล้วดำเนินการแก้ไขที่ต้นเหตุ เช่น ปรับปรุงการระบายอากาศ หรือเลือกใช้วัสดุที่ปลอดสารพิษแทน

เครื่องฟอกอากาศต้องการการบำรุงรักษาอย่างสม่ำเสมอ

หลายคนติดตั้งเครื่องฟอกอากาศแล้วลืมตรวจสอบประสิทธิภาพการใช้งาน โดยหากไส้กรองอุดตันหรือเครื่องทำงานไม่เต็มที่ ประสิทธิภาพในการกรองอากาศจะลดลงไปมาก ซึ่งการตรวจอากาศภายในอาคารสามารถช่วยในเรื่องนี้ได้ ดังนี้

  • แจ้งเตือนเมื่อพบว่าระดับมลพิษในอากาศเพิ่มขึ้นผิดปกติ อาจเกิดจากไส้กรองหมดอายุหรือเครื่องทำงานไม่เต็มประสิทธิภาพ
  • ช่วยให้รู้ว่าเมื่อไรควรเปลี่ยนไส้กรองหรือทำความสะอาดเครื่องฟอกอากาศ
  • ตรวจสอบว่าเครื่องฟอกอากาศที่ใช้อยู่สามารถจัดการกับปัญหาคุณภาพอากาศได้จริงหรือไม่

เจ้าหน้าที่กำลังตรวจอากาศภายในอาคาร

ระบบตรวจวัดอากาศช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการจัดการอากาศภายในอาคาร

เมื่อมีระบบตรวจอากาศภายในอาคาร จะช่วยให้สามารถจัดการอากาศได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นในหลายด้าน เช่น

  • ปรับปรุงระบบระบายอากาศ : การรู้ค่าจริงของคุณภาพอากาศ จะช่วยให้สามารถปรับระบบระบายอากาศให้เหมาะสมกับสภาพอากาศจริง ลดการสะสมของ CO₂ และ VOCs
  • ลดความเสี่ยงของการแพร่กระจายเชื้อโรคในอากาศ : ระบบตรวจอากาศภายในอาคารสามารถช่วยแจ้งเตือนเมื่อมีความเสี่ยงของเชื้อโรคในอากาศสูง ทำให้สามารถใช้มาตรการป้องกัน เช่น เพิ่มการถ่ายเทอากาศ หรือใช้เครื่องกรองอากาศที่มีประสิทธิภาพสูงขึ้น
  • ปรับการทำงานของเครื่องฟอกอากาศให้เหมาะสม : แทนที่จะเปิดเครื่องฟอกอากาศตลอดเวลา การใช้ข้อมูลจากเครื่องตรวจวัดอากาศ สามารถช่วยให้เปิดเครื่องเมื่อจำเป็นเท่านั้น ซึ่งช่วยประหยัดพลังงานและยืดอายุการใช้งานของเครื่องฟอกอากาศ

เมื่อได้ทราบกันแล้วว่า IAQ คืออะไร และช่วยส่งเสริมการทำงานควบคู่กับเครื่องฟอกอากาศอย่างไร ดังนั้น ผู้ประกอบการท่านใดอยากให้อาคารสำนักงานมีคุณภาพอากาศที่ปลอดภัยต่อพนักงาน รวมถึงเป็นไปตามประกาศกรมอนามัย เรื่อง ค่าเฝ้าระวังคุณภาพอากาศภายในอาคารสาธารณะ พ.ศ. 2565 สามารถใช้บริการตรวจอากาศกับ Health & Envitech โดยเรามีบริการเก็บตัวอย่าง ตรวจวัด และวิเคราะห์ผลการทดสอบคุณภาพอากาศภายในอาคาร โดยใช้พารามิเตอร์เดียวกับประกาศกรมอนามัย พร้อมเครื่องมือทันสมัยมาตรฐานระดับโลก สามารถนำค่าที่ได้ไปปรับปรุงพัฒนาต่อได้อย่างตรงจุด สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ติดต่อ 0-2952-6305-9, LINE Official : https://lin.ee/5oJIwdk หรืออีเมล service@healthenvi.com

 

ข้อมูลอ้างอิง: 

  • Indoor Air Quality. สืบค้นเมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2568 จาก https://www.niehs.nih.gov/health/topics/agents/indoor-air