
04 มี.ค. ภาคอุตสาหกรรมเร่งใส่ใจ คนไทยสุขภาพแย่ PM2.5 คือต้นเหตุ !
นาทีนี้ หากจะพูดถึงมลภาวะทางอากาศที่อยู่ในขั้นวิกฤตและเป็นอันตรายต่อชีวิตคนไทยมากที่สุด คงหนีไม่พ้นฝุ่นพิษ PM2.5 ที่ส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตของประชาชนในหลายพื้นที่ เช่น กรุงเทพมหานคร เชียงใหม่ เชียงราย แพร่ ลำปาง ด้วยความรุนแรงและผลกระทบที่เกิดขึ้นเป็นวงกว้าง การป้องกันฝุ่น PM2.5 ด้วยการใส่หน้ากาก N95 หรือการเปิดเครื่องฟอกอากาศจึงไม่ใช่คำตอบที่เพียงพออีกต่อไป แต่ถึงเวลาที่เหล่าผู้ประกอบการควรหันมาใส่ใจปัญหานี้ และร่วมมือกันศึกษาว่าปัญหาฝุ่น PM2.5 เกิดจากอะไร นำไปสู่การป้องกันจากต้นเหตุอย่างยั่งยืน
ฝุ่น PM2.5 คืออะไร ?
PM ย่อมาจาก Particulate Matter หรือฝุ่นละอองในอากาศ ซึ่งเป็นอนุภาคของแข็งและของเหลวที่แขวนลอยอยู่ในชั้นบรรยากาศ ส่วนฝุ่น PM2.5 ที่กำลังเป็นปัญหาในหลายประเทศ คือ ฝุ่นละอองที่มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางไม่เกิน 2.5 ไมครอน ซึ่งเล็กกว่าขนาดของเส้นผ่านศูนย์กลางเส้นผมมนุษย์ประมาณ 20-30 เท่า ทำให้ไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า โดยคุณสมบัติสำคัญของฝุ่นพิษประเภทนี้ ได้แก่
- ขนาดเล็กมาก สามารถแขวนลอยอยู่ในอากาศเป็นเวลานาน และเดินทางได้ไกลจากแหล่งกำเนิด
- น้ำหนักเบา ส่งผลให้ฝุ่น PM2.5 แพร่กระจายไปทั่วเมืองและแหล่งชุมชนได้อย่างง่ายดาย
- แทรกซึมเข้าสู่ร่างกายได้ ทั้งผ่านระบบทางเดินหายใจและกระแสเลือด ทำให้เกิดปัญหาด้านสุขภาพในระยะยาว
- มีองค์ประกอบหลากหลาย เช่น คาร์บอน โลหะหนัก สารอินทรีย์ระเหยง่าย (VOCs) ไนเตรต ซัลเฟต และสารพิษอื่น ๆ ที่เป็นผลพลอยได้จากการเผาไหม้
สาเหตุของการเกิดฝุ่น PM2.5
ฝุ่น PM2.5 เกิดจากหลายสาเหตุ ถือเป็นมลพิษทางอากาศที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อมอย่างมีนัยสำคัญ การทำความเข้าใจถึงสาเหตุของการเกิดฝุ่น PM2.5 อย่างจริงจัง จึงเป็นสิ่งสำคัญในการวางแผนและดำเนินมาตรการป้องกันอย่างมีประสิทธิภาพ
- การเผาไหม้เชื้อเพลิงฟอสซิล
การเผาไหม้เชื้อเพลิงฟอสซิล เช่น ถ่านหิน น้ำมันดีเซล และก๊าซธรรมชาติ เป็นแหล่งกำเนิดหลักของ PM2.5 โดยเฉพาะจากโรงไฟฟ้า ยานพาหนะ และโรงงานอุตสาหกรรม การเผาไหม้ที่ไม่สมบูรณ์ทำให้เกิดเขม่าคาร์บอนและก๊าซมลพิษ เช่น ซัลเฟอร์ไดออกไซด์ และไนโตรเจนออกไซด์ เมื่อก๊าซเหล่านี้ทำปฏิกิริยาในอากาศ จะก่อตัวเป็นฝุ่นละอองขนาดเล็กได้
- การเผาวัสดุชีวมวล (Biomass Burning)
การเผาชีวมวลจากการเกษตร เช่น การเผาอ้อย ข้าวโพด และไฟป่า เป็นสาเหตุการเกิด PM2.5 ที่สำคัญในหลายประเทศ โดยเฉพาะในช่วงฤดูแล้ง นอกจากฝุ่นละอองแล้ว ยังมีการปล่อยก๊าซพิษที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพด้วย
- การปล่อยฝุ่นจากอุตสาหกรรม
อีกหนึ่งสาเหตุสำคัญของ PM2.5 คือกระบวนการผลิตในโรงงานอุตสาหกรรม ไม่ว่าจะเป็นการเผาโลหะ การผลิตปูนซีเมนต์ การกลั่นน้ำมัน และกระบวนการอื่น ๆ อีกทั้งฝุ่นที่ปล่อยออกมา ยังประกอบด้วยโลหะหนัก เช่น ตะกั่ว แคดเมียม และปรอท ซึ่งล้วนแต่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของผู้ปฏิบัติงานและชุมชนใกล้เคียง
- ฝุ่นจากการก่อสร้างและการจราจร
สุดท้าย ฝุ่นจากการก่อสร้าง การรื้อถอนอาคาร การบดหิน และการขนส่งวัสดุที่ไม่มีการป้องกัน รวมทั้งฝุ่นจากการจราจรที่เกิดจากการสึกหรอของยางรถยนต์ ผ้าเบรก และฝุ่นจากถนนที่ถูกพัดขึ้นโดยกระแสลมจากยานพาหนะ ถือเป็นสาเหตุหลักของฝุ่น PM2.5 ในเขตเมืองก็ว่าได้
ผลกระทบของฝุ่น PM2.5 ต่อร่างกายมนุษย์
ปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 คือวิกฤตสุขภาพที่สำคัญในประเทศไทย ข้อมูลจากกระทรวงสาธารณสุขระบุว่า ในเดือนมกราคม 2567 มีผู้ป่วยที่เกี่ยวข้องกับการสัมผัสฝุ่น PM2.5 ประมาณ 500,000 ราย โดยกลุ่มโรคที่พบมากที่สุดคือ โรคผิวหนังอักเสบ 214,180 ราย รองลงมาคือ ตาอักเสบ 190,889 ราย และโรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง 126,553 ราย โดยเราสามารถจำแนกผลกระทบของฝุ่น PM2.5 ต่อร่างกายมนุษย์ได้เป็น 5 หมวดหมู่หลัก ดังนี้
-
- ระบบทางเดินหายใจ ทำให้เกิดอาการไอแห้ง แสบจมูก และระคายเคืองคอ หากสัมผัสในระยะยาว อาจเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคปอดอุดกั้นเรื้อรังและมะเร็งปอด
- ระบบหัวใจและหลอดเลือด ส่งผลให้หัวใจเต้นผิดจังหวะ เพิ่มความเสี่ยงต่อโรคหัวใจขาดเลือดเฉียบพลันและโรคหลอดเลือดสมอง
- ระบบผิวหนัง ทำให้เกิดริ้วรอยก่อนวัย ผิวหมองคล้ำ และลดความสามารถในการฟื้นฟูของผิวหนัง กระตุ้นโรคผิวหนังอักเสบเรื้อรัง เช่น โรคสะเก็ดเงิน และโรคผิวหนังภูมิแพ้
- ระบบประสาทและสมอง กระตุ้นกระบวนการอักเสบในระบบประสาท เพิ่มความเสี่ยงต่อโรคทางสมอง เช่น อัลไซเมอร์และพาร์กินสัน
- ผลกระทบต่อสตรีมีครรภ์และเด็ก ทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนระหว่างตั้งครรภ์ เช่น การคลอดก่อนกำหนด น้ำหนักแรกเกิดต่ำ หรือภาวะครรภ์เป็นพิษ และเพิ่มความเสี่ยงของความผิดปกติทางพัฒนาการของทารก
แนวทางป้องกันฝุ่น PM2.5 ในภาคอุตสาหกรรม
จากสถิติสะท้อนให้เห็นว่า PM2.5 คือปัญหาที่ต้องได้รับการแก้ไขอย่างเร่งด่วน โดยในปี 2566 กรมควบคุมมลพิษ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ระบุให้ค่าเฉลี่ยฝุ่น PM2.5 ในระยะเวลา 24 ชั่วโมง ต้องไม่เกิน 37.5 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร ในฐานะผู้ประกอบการภาคอุตสาหกรรมที่เป็นส่วนสำคัญในการป้องกันปัญหานี้ในระยะยาว สามารถเริ่มต้นลดการเกิดฝุ่น PM2.5 ได้ง่าย ๆ ด้วยแนวทางเหล่านี้
- การควบคุมมาตรฐานอากาศของโรงงานอุตสาหกรรม
โรงงานควรติดตั้งระบบกรองอากาศที่ได้มาตรฐานเพื่อลดการปล่อยฝุ่น PM2.5 รวมถึงควบคุมค่ามลพิษทางอากาศให้อยู่ในระดับที่กฎหมายกำหนด และมีระบบตรวจอากาศภายในโรงงานและพื้นที่โดยรอบอย่างสม่ำเสมอ
- การเลือกใช้พลังงานสะอาด
เปลี่ยนจากการใช้เชื้อเพลิงฟอสซิลไปเป็นพลังงานสะอาด เช่น พลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานลม ก๊าซชีวภาพ ซึ่งช่วยลดการปล่อยฝุ่น PM2.5 และก๊าซพิษประเภทต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพในระยะยาว
- การลดการเผาไหม้และมลพิษจากยานพาหนะ
ส่งเสริมการใช้รถขนส่งพลังงานไฟฟ้า (EV Truck) หรือรถที่ใช้เชื้อเพลิงทางเลือก เช่น NGV หรือไฮโดรเจน แทนรถดีเซลที่ปล่อยฝุ่น PM2.5 สูง คืออีกวิธีหนึ่งที่จะช่วยลดฝุ่นได้ รวมถึงจัดให้มีการตรวจสอบและบำรุงรักษารถขนส่งของโรงงานเป็นประจำเพื่อลดปัญหาควันดำ
- การปลูกต้นไม้เพื่อดักจับฝุ่น
เพิ่มพื้นที่สีเขียวโดยการปลูกต้นไม้ที่มีประสิทธิภาพในการดูดซับฝุ่นละออง เช่น ต้นไทรเกาหลี ต้นสน ต้นพญาสัตบรรณ และไผ่ ในแนวรั้วโรงงานหรือรอบบริเวณที่มีมลพิษสูง จะช่วยป้องกันการกระจายตัวของฝุ่นในอากาศและปรับปรุงคุณภาพอากาศในพื้นที่โดยรอบในเวลาเดียวกัน
เพราะอากาศบริสุทธิ์คือคุณภาพชีวิตขั้นพื้นฐานที่ประชาชนทุกคนควรได้รับ มาร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการสร้างอากาศสะอาด ลดปัญหามลภาวะและฝุ่นพิษ PM2.5 อย่างยั่งยืน ด้วยการตรวจอากาศในโรงงานอุตสาหกรรมโดยผู้เชี่ยวชาญของ Health & Envitech เป็นประจำ เพื่อให้แน่ใจว่าอากาศภายในโรงงานหรืออาคารของคุณอยู่ในระดับมาตรฐาน ปลอดภัยต่อผู้ปฏิบัติงานและชุมชนข้างเคียง สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ติดต่อ 0-2952-6305-9, LINE Official : https://lin.ee/5oJIwdk หรืออีเมล service@healthenvi.com
ข้อมูลอ้างอิง:
- PM2.5 มาจากไหนกัน?. สืบค้นเมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2568 จาก https://www.sikarin.com/health/pm2-5
- ฝุ่น PM 2.5 อันตรายแค่ไหน และควรป้องกันตัวเองอย่างไร ให้ปลอดภัยจากฝุ่นร้าย. สืบค้นเมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2568 จาก https://www.phyathai.com/th/article/particulate-matters-2-5-pt2
- 15 จังหวัดค่าฝุ่น PM2.5 เกินมาตรฐานในระดับสีแดง เผยปี 67 ป่วยโรคผิวหนังอักเสบสูงสุด. สืบค้นเมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2568 จาก https://www.hfocus.org/content/2025/01/32901