30 ก.ย. การเลือกใช้เครื่องวัดการสั่นสะเทือนประเภทต่าง ๆ อย่างถูกต้อง
ในการประกอบธุรกิจโรงงานอุตสาหกรรม หนึ่งสิ่งที่ผู้ประกอบการควรคำนึงถึงก็คือ “แรงสั่นสะเทือน” ที่ถูกปล่อยออกมาจากกระบวนการทำงาน เนื่องจากสิ่งนี้อาจส่งผลกระทบได้ในหลากหลายด้าน ทั้งกับโรงงานอุตสาหกรรม ไปจนถึงประชาชนทั่วไปที่อาศัยอยู่ใกล้เคียง ดังนั้น เพื่อหลีกเลี่ยงสารพันปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต ผู้ประกอบการจึงควรมีการตรวจวัดแรงสั่นสะเทือนอย่างสม่ำเสมอ และอุปกรณ์ที่จะขาดไม่ได้เลยในขั้นตอนการตรวจสอบก็คือ “เครื่องวัดการสั่นสะเทือน” บทความนี้จะมาอธิบายว่าเครื่องวัดการสั่นสะเทือนคืออะไร มีกี่ประเภท และแต่ละประเภทเหมาะกับการใช้งานในรูปแบบใดบ้าง
ทำความรู้จักเครื่องวัดการสั่นสะเทือน
ก่อนจะไปรู้กันว่าเครื่องวัดการสั่นสะเทือนมีประเภทอะไรบ้าง เรามารู้จักเจ้าอุปกรณ์ชนิดนี้กันก่อน โดยเครื่องวัดการสั่นสะเทือน หรือ Vibration Meter คืออุปกรณ์ที่ใช้ในการตรวจจับและวัดระดับการสั่นสะเทือนของเครื่องจักรต่าง ๆ ในกระบวนการผลิต ซึ่งการสั่นสะเทือนนั้นสามารถเกิดขึ้นได้จากหลายปัจจัย เช่น การเคลื่อนไหวของเครื่องจักร การหมุนของเพลา หรือแม้กระทั่งการเสียดสีของชิ้นส่วนภายใน การสั่นสะเทือนที่ไม่ปกติอาจเป็นสัญญาณเตือนถึงปัญหาที่ซ่อนอยู่ในเครื่องจักร เช่น การเสื่อมสภาพของชิ้นส่วน การติดตั้งที่ไม่สมบูรณ์ หรือความไม่สมดุลของการทำงาน
เครื่องวัดการสั่นสะเทือนประเภทต่าง ๆ
เพื่อตอบโจทย์การใช้งานที่หลากหลาย รวมถึงข้อจำกัดต่าง ๆ ทำให้ในปัจจุบันเครื่องวัดการสั่นสะเทือนสำหรับใช้งานในภาคอุตสาหกรรมมีหลายประเภท ดังนี้
เครื่องวัดการสั่นสะเทือนแบบสัมผัส (Contact Vibration Meter)
เครื่องวัดการสั่นสะเทือนแบบสัมผัสคืออุปกรณ์พื้นฐานที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในอุตสาหกรรม หลักการทำงานของเครื่องมือชนิดนี้จะเป็นการใช้เซนเซอร์ที่สัมผัสโดยตรงกับพื้นผิวของเครื่องจักรหรืออุปกรณ์ที่ต้องการวัด
จุดเด่นของเครื่องวัดแบบสัมผัส
- สามารถวัดการสั่นสะเทือนได้อย่างละเอียดและแม่นยำ
- ราคาไม่สูงมากเมื่อเทียบกับเครื่องวัดประเภทอื่น
- เหมาะสำหรับการวัดในจุดที่เข้าถึงได้ง่าย
ข้อจำกัด:
- ไม่เหมาะกับการวัดในพื้นที่ที่มีอุณหภูมิสูงมากหรือมีสารเคมีกัดกร่อน
- อาจมีข้อจำกัดในการใช้งานกับเครื่องจักรที่มีการหมุนด้วยความเร็วสูงมาก
การใช้งาน: เครื่องวัดแบบสัมผัสมักใช้ในการตรวจสอบสภาพมอเตอร์ ปั๊ม เกียร์ และอุปกรณ์หมุนอื่น ๆ ในโรงงานอุตสาหกรรม โดยวิศวกรจะทำการวัดเป็นประจำเพื่อติดตามการเปลี่ยนแปลงของการสั่นสะเทือนและวางแผนการบำรุงรักษาเชิงป้องกัน
เครื่องวัดการสั่นสะเทือนแบบไม่สัมผัส (Non-Contact Vibration Meter)
เครื่องวัดการสั่นสะเทือนแบบไม่สัมผัสใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยกว่า ทำให้ในการใช้งานไม่จำเป็นต้องสัมผัสกับพื้นผิวของอุปกรณ์ที่ต้องการวัดโดยตรง เครื่องมือประเภทนี้มักใช้เลเซอร์หรือเทคโนโลยีอื่น ๆ ในการตรวจจับการเคลื่อนไหวและการสั่นสะเทือน
จุดเด่นของเครื่องวัดแบบไม่สัมผัส:
- สามารถวัดการสั่นสะเทือนของอุปกรณ์ที่มีอุณหภูมิสูงหรืออยู่ในสภาพแวดล้อมที่เป็นอันตราย
- ไม่รบกวนการทำงานของเครื่องจักร เหมาะสำหรับการวัดแบบต่อเนื่อง
- สามารถวัดการสั่นสะเทือนของชิ้นส่วนที่มีขนาดเล็กหรือน้ำหนักเบามาก
ข้อจำกัด:
- เครื่องวัดการสั่นสะเทือนประเภทนี้ราคาค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับเครื่องวัดแบบสัมผัส
- อาจมีความแม่นยำน้อยกว่าในบางสถานการณ์ โดยเฉพาะเมื่อมีสิ่งกีดขวางระหว่างเครื่องวัดและวัตถุที่ต้องการวัด
การใช้งาน: เครื่องวัดแบบไม่สัมผัสมักใช้ในอุตสาหกรรมที่มีความซับซ้อนสูง เช่น อุตสาหกรรมการบิน การผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ขนาดเล็ก หรือในโรงงานที่มีกระบวนการผลิตที่ต้องการความแม่นยำสูง
เครื่องวัดการสั่นสะเทือนแบบพกพา (Handheld Vibration Meter)
เครื่องวัดการสั่นสะเทือนแบบพกพาคืออุปกรณ์ที่ออกแบบมาเพื่อความสะดวกในการใช้งานภาคสนาม สามารถพกพาไปยังจุดต่าง ๆ ในโรงงานได้อย่างง่ายดาย เครื่องมือประเภทนี้มีทั้งแบบสัมผัสและไม่สัมผัส ขึ้นอยู่กับรุ่นและผู้ผลิต
จุดเด่นของเครื่องวัดแบบพกพา:
- สะดวกในการใช้งาน สามารถเคลื่อนย้ายได้ง่าย
- เหมาะสำหรับการตรวจสอบเบื้องต้นและการวินิจฉัยปัญหาอย่างรวดเร็ว
- เครื่องวัดการสั่นสะเทือนประเภทนี้มักมีฟังก์ชันการใช้งานที่หลากหลาย เช่น การวัดความเร็ว ความเร่ง และการวิเคราะห์ความถี่
ข้อจำกัด:
- มีความแม่นยำน้อยกว่าเครื่องวัดแบบติดตั้งถาวร
- ไม่เหมาะสำหรับการเฝ้าระวังแบบต่อเนื่องในระยะยาว
การใช้งาน: เครื่องวัดแบบพกพานิยมใช้ในทีมซ่อมบำรุงสำหรับการตรวจสอบประจำวันหรือการวินิจฉัยปัญหาเฉพาะจุด นอกจากนี้ ยังเหมาะสำหรับบริษัทที่ให้บริการตรวจสอบและซ่อมบำรุงเครื่องจักรแก่ลูกค้าหลายราย
ความสำคัญของการติดตั้งเครื่องวัดการสั่นสะเทือนในโรงงาน
- ช่วยระบุปัญหาตั้งแต่เนิ่น ๆ: การติดตั้งเครื่องวัดการสั่นสะเทือนช่วยให้สามารถตรวจจับความผิดปกติในเครื่องจักรได้ตั้งแต่เริ่มต้นก่อนที่ปัญหาจะลุกลาม เช่น การสึกหรอของแบริ่ง การไม่สมดุลของเพลา หรือการเสื่อมสภาพของสายพาน ทำให้สามารถดำเนินการซ่อมแซมได้ทันท่วงที ลดโอกาสที่เครื่องจักรจะหยุดทำงานกะทันหัน
- ช่วยลดค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษา: เมื่อสามารถระบุปัญหาได้ก่อนที่จะเกิดความเสียหายรุนแรง ก็ย่อมช่วยลดความจำเป็นในการซ่อมแซมเครื่องจักรในระยะยาว ทำให้ค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาลดลง เนื่องจากไม่จำเป็นต้องซ่อมแซมแบบฉุกเฉินหรือต้องเปลี่ยนเครื่องจักรทั้งหมด
- เพิ่มประสิทธิภาพการผลิต: การทำงานของเครื่องจักรที่มีการตรวจสอบและบำรุงรักษาอย่างสม่ำเสมอจะส่งผลให้การผลิตดำเนินไปได้อย่างราบรื่น ไม่มีการหยุดชะงัก
- เพิ่มความปลอดภัยในการทำงาน: การสั่นสะเทือนที่มากเกินไปอาจเป็นสัญญาณบ่งบอกถึงความเสียหายที่นำไปสู่ความเสี่ยงในการทำงานได้ การติดตั้งเครื่องวัดการสั่นสะเทือนจึงช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถตรวจสอบความปลอดภัยของเครื่องจักร และสามารถแก้ไขปัญหาได้ทันท่วงที เพื่อป้องกันอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้น
Health & Envitech บริการตรวจวัดการสั่นสะเทือนในโรงงาน มาตรฐานสากล
เมื่อได้ทราบแล้วว่าการตรวจวัดแรงสั่นสะเทือนสำคัญอย่างไรต่อโรงงานอุตสาหกรรม ดังนั้น หากผู้ประกอบการท่านใดกำลังมองหาบริการวัดแรงสั่นสะเทือนโดยผู้เชี่ยวชาญ ต้องที่ Health & Envitech ผู้ให้บริการตรวจวัดด้านสุขศาสตร์อุตสาหกรรมและความปลอดภัยแบบครบวงจร ที่รวบรวมบริการตรวจวัดการสั่นสะเทือนในโรงงาน บริการตรวจวัดเสียงอุตสาหกรรม บริการตรวจวัดแสงสว่างอุตสาหกรรม บริการตรวจสารเคมีในโรงงาน และบริการตรวจสารเคมีอุตสาหกรรม ไว้ในที่เดียว โดยกระบวนการตรวจวัดคุณภาพในด้านต่าง ๆ และการเก็บตัวอย่างจะดำเนินการโดยมืออาชีพ ถูกต้องตามหลักวิชาการ อีกทั้งยังมีการวิเคราะห์ผลการทดสอบในห้องปฏิบัติการที่ได้มาตรฐาน รวมถึงบริการให้คำปรึกษาการติดตามมาตรการเพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม สนใจรับคำปรึกษาหรือข้อมูลเพิ่มเติม ติดต่อ 0-2952-6305-9, LINE Official https://lin.ee/5oJIwdk หรืออีเมล service@healthenvi.com
ข้อมูลอ้างอิง:
- Uses of Vibration Meter. สืบค้นเมื่อวันที่ 26 กันยายน 2567 จาก https://www.mrclab.com/uses-of-vibration-meter#:~:text=A%20vibration%20meter%2C%20also%20known,of%20the%20equipment%20being%20monitored.